8 ประโยชน์ของผักเคล (Kale) ราชินีแห่งผักใบเขียว ที่สายสุขภาพห้ามพลาด

ผักเคลหรือราชินีแห่งผักใบเขียว (The queen of green) เป็นหนึ่งในผักที่กำลังมาแรงที่สุดสำหรับคนรักสุขภาพและต้องการดูแลตัวเอง โดยผักเคลเป็นผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงมากอันดับต้นๆชนิดหนึ่งในบรรดาผองผักทั้งหมด ผักเคล ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “Superfood” เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร คุณค่าทางโภชนาการสูง และยังอุดมไปด้วย วิตามิน A, K,B6,C, แคลเซียม โพแทสเซียม คอปเปอร์ แมงกานิส ไฟเบอร์ โฟเลต

ผักเคลเป็นพืชที่เริ่มปลูกในสมัยยุคกรีกและโรมันซึ่งมักนิยมทานและใช้ประกอบอาหาร จนกระทั่งมาเป็นพืชเศรษฐกิจขนาดเล็กของสหรัฐอเมริกาและเริ่มมีชื่อเสียงอย่างมากในปี 2012 โดยมีการนำผักเคลมาเป็นส่วนประกอบในการทำอาหารระดับดาวมิชิลิน และเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้นสำหรับชาวมิลเลเนียล ที่สำคัญในสหรัฐอเมริกามีการกำหนดให้วันที่ 2 ตุลาคม 2013 เป็นวันผักเคลแห่งชาติอีกด้วย ( National Kale Day)

คุณค่าทางโภชนาการของผักเคล (Kale)

ผักผักเคลสด 1 ถ้วยหรือประมาณ 64กรัม ประกอบไปด้วยสารอาหารของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน ดังนี้

วิตามิน K 684%

วิตามิน A 206%

วิตามิน C 134%

วิตามิน B6 9%

แมงกานิส 26%

แคลเซียม 10%

โพแทสเซียม 9%

แมกนีเซียม 6%

นอกจากนั้นยังประกอบด้วยวิตามินบี1 บี2 บี3 ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และ Omega-3 ที่เรียกว่า Alpha linolenic acid

จากคุณค่าทางสารอาหารที่ค้นพบบนผักเคลทั้งหมด ทำให้ผักเคลได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแหล่งสารอาหารที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก การทานผักเคลควบคู่กับการลดน้ำหนักจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอในแต่ละวันอีกด้วย

8 ประโยชน์ของผักเคล

1. ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน

ผักเคลเต็มเปี่ยมไปด้วย วิตามิน K และแคลเซียมที่สูงมาก เหมาะสำหรับคนทาน Vegan โดยสามารถทดแทนแคลเซียมจากนมวัวได้  โดยจากการวิจัยพบว่า แคลเซียมที่ร่างกายได้รับจากผักเคลหนึ่งถ้วย เท่ากับนมวัว 1 ถ้วยเลยทีเดียว
โดยวิตามิน K และแคลเซียมนั้นมีความสัมพันธ์กัน โดยวิตามินK นั้นมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
อีกทั้งยังช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ดี ป้องกันเลือดออกมาก นอกจากนั้นยังผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มใช้วิตามิน K จากเคลในการรักษาโรคกระดูกพรุนอีกด้วย

2. บำรุงและปกป้องสายตาจากรังสี

ผักเคล มีลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) เป็นสารในตระกูลของสารแคโรทีนอยด์ (beta-carotene) และวิตามินเอ โดยพบได้ตรงบริเวณเลนส์ตาและจอรับภาพตา โดยสารทั้งสองชนิดนี้จะทำหน้าที่ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็น อันตรายต่อดวงตา และช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งทำหน้าที่บำรุงตา ทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว เพราะฉะนั้นใครที่อยากถนอมสายตาผักเคลก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนึงที่ดีเยี่ยม

3. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย สุขภาพแข็งแรง

ผักเคลมีวิตามินซี ทำให้ไม่ป่วย ไม่เป็นหวัดง่ายๆ บำรุงผิวให้สวยงามกระจ่างใสป้องกันโรคหวัด สำคัญต่อระบบเผาผลาญซึ่งจำเป็นต่อการลดน้ำหนัก ให้ความชุ่มชื้นแก่เซลล์ และทำให้ผิวมีสุขภาพดี ลดริ้วรอย ชะลอวัย ชึ่งถ้าเทียบกับปริมาณแล้วถือว่ามีวิตามินซีมากกว่าส้ม แต่น้ำตาลน้อยกว่า 20 เท่าเลยทีเดียว

4. เต็มไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านมะเร็ง

ในผักเคลนั้นมีสารที่พบได้แก่ แคโรทีนอยด์ โพลีฟีนอล และฟลาโวนอยด์ ช่วยปกป้องร่างกายจากมะเร็ง ซึ่งมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวเร่งความแก่ของเซลล์ และโรคมากมายรวมทั้งโรคมะเร็ง

 5. ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ลดคอเลสเตอรอล

ผักเคลเป็นหนึ่งในผักใบเขียวที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดคอเลสเตอรอลมากที่สุด มีความสำคัญต่อการทำงานของหัวใจ โดยมีงานวิจัยพบว่า การดื่มน้ำผักเคลเป็นประจำทุกวันติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลดี HDL 27% และลดคอเลสเตอรอลร้าย LDL ลง 10%

6. ช่วยเสริมสร้างและบำรุงสมองให้กับน้องในครรภ์

ผักเคลมีโฟเลตสูง (Folate) ซึ่งช่วยในการพัฒนาระบบประสาทและสมองสำหรับเด็กในครรภ์ และเป็นสารอาหารที่คุณหมอหลายๆท่านมักจะแนะนำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ทาน โดยจากการวิจัยพบว่า โฟเลตนั้นมีส่วยช่วยในการพัฒนาระบบประสาทและสมองสำหรับเด็กในครรภ์ เพราะฉะนั้นผักเคลจึงตอบโจทย์เป็นอย่างมากและเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีสำหรับคุณแม่หรือท่านที่จำเป็นต้องเพิ่มโฟเลตในร่างกาย

7. ดีท็อกซ์ ชำระสารพิษตกค้างในร่างกาย

ผักเคลประกอบด้วย glucosinolates มีชื่อเรียกว่า “isothiocyanates,​” หรือ “ITCs.​” ซึ่งสามารถพบได้ในพืชตระกูลกระหล่ำ (cruciferous vegetables) สารสำคัญโดยเฉพาะกลุ่มไอโซไธโอไซยาเนทที่อยู่ในผักเคล ช่วยยับยั้งและป้องกันการเกิดของเซลล์มะเร็งได้ โดยการศึกษาในเชิงวิทยาศาสตร์ทั้งในสัตว์ทดลองและในมนุษย์พบว่าสารกลุ่ม ITCs ที่ชื่อว่า “เฟนเอทิลไอโซไธโอไซยาเนท” ซึ่งอยู่ในผักสามารถยับยั้งการเกิดมะเร็งปอดและมะเร็งที่หลอดอาหารได้ หรืออธิบายง่ายๆก็คือ แอนตี้ออกซิแดนท์ทำลายอนุมูลอิสระ ส่วน ITCs นั้นช่วยชำระล้างสิ่งตกค้างที่เหลือนั้นออกจากร่างกาย

8. ช่วยลดน้ำหนัก ทานแล้วไม่อ้วน

ผักเคลให้คาร์โบไฮเดรตที่มีค่า Glycemic Index (GI) ต่ำ ซึ่งค่านี้ใช้วัดความเร็วหรือช้าของอาหารที่มีคาร์บในการเพิ่มน้ำตาลในเลือดนั่นเอง เคลจัดอยู่ในกลุ่มที่มีค่า GI ต่ำช่วยจัดการระดับอินซูลิน การทานเคลจึงช่วยสนับสนุนการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพอย่างดี

วิธีทานผงผักเคล

สมัยนี้ผักเคลนั้นนอกจากการทานแบบสลัดโดยการทานใบสดๆเเล้ว ยังมีการสกัดผักเคลให้เป็นผงผักเคล ซึ่งทำให้การทานนั้นสะดวกและตอบโจทย์ชีวิตของเราที่มีความเร่งรีบมากยิ่งขึ้น

เพียงใส่ผงผักเคล ครั้งละ 1-3 ช้อนชาลงในเครื่องดื่ม สมูทตี้ หรือสูตรอาหารต่างๆ เพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟัน เสริมภูมิต้านทาน บำรุงสายตา ระบบไหลเวียนโลหิตและดีท็อกซ์สารพิษในร่างกายได้เเล้ว