ความแตกต่างระหว่างคาเคากับโกโก้: อันไหนดีต่อสุขภาพสำหรับคุณ?

ความแตกต่างระหว่างคาเคากับโกโก้ คุณสับสนเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างคาเคาและโกโก้หรือไม่? แม้ว่าคำเหล่านี้มักจะใช้แทนกันได้ แต่จริงๆ แล้วคำเหล่านี้หมายถึงส่วนต่าง ๆ ของพืชชนิดเดียวกัน และมีความแตกต่างบางประการในโปรไฟล์ทางโภชนาการ วิธีการแปรรูป และการใช้ประกอบอาหาร ในบทความนี้ เราจะพิจารณาคาเคากับโกโก้ให้ละเอียดยิ่งขึ้น และช่วยให้คุณเข้าใจว่าอันไหนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของคุณ ความหมายและที่มาของต้นคาเคาและโกโก้ ต้นคาเคาหมายถึงเมล็ดโกโก้ดิบที่ยังไม่ได้แปรรูปซึ่งมาจากต้นโกโก้ (Theobroma cacao) เมล็ดเหล่านี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ไฟเบอร์ และแร่ธาตุต่างๆ เช่น แมกนีเซียมและเหล็ก ในทางกลับกัน โกโก้เป็นคำที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ได้จากต้นโกโก้ เช่น ผงโกโก้และช็อกโกแลต โกโก้อาจผ่านกรรมวิธีต่างๆ เช่น การคั่ว การทำให้เป็นด่าง และการหมัก ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติของมัน ความแตกต่างทางโภชนาการทางด้านสารอาหาร คาเคามักถูกขนานนามว่าเป็น superfood เนื่องจากมีปริมาณฟลาโวนอยด์สูง ซึ่งเป็นสารประกอบตามธรรมชาติที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ ไขมันดี และแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์จากโกโก้อาจมีฟลาโวนอยด์และไฟเบอร์ต่ำกว่า และมีน้ำตาลและไขมันเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเลือกผลิตภัณฑ์โกโก้ ให้มองหาดาร์กช็อกโกแลตที่มีเนื้อโกโก้อย่างน้อย 70% และส่วนผสมที่เติมน้อยที่สุด ประโยชน์ต่อสุขภาพของคาเคาและโกโก้: คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ทั้งคาเคาและโกโก้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงสุขภาพหัวใจที่ดีขึ้น ความดันโลหิตลดลง และการทำงานของสมองดีขึ้น อย่างไรก็ตาม โดยคาเคาจะมีศักยภาพมากกว่าในแง่ของคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ เนื่องจากมีปริมาณฟลาโวนอยด์สูง […]

krit horbunluekij

March 9, 2023

ไซเลี่ยมฮัส Psyllium Husk ควรทานอย่างไร? (How to take Psyllium Husk)

ไซเลี่ยมฮัส Psyllium Husk ควรทานอย่างไร? ข้อควรรู้เมื่อรับประทานไซเลี่ยมฮัส ไซเลี่ยมฮัสเป็นอาหารเสริมธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากๆ เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน เช่นช่วยรักษาปัญหาทางเดินอาหาร เช่นท้องผูก ท้องเสีย ระดับไขมันในเลือดสูง และปัญหาทางเดินอาหารอื่นๆ ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการรับประทานไซเลี่ยมฮัสให้ได้ผลดีสุด เมื่อครั้งแรกที่รับประทาน ไซเลี่ยมฮัส (Psyllium husk) ควรเริ่มต้นด้วยปริมาณน้อยๆ เพื่อช่วยร่างกายปรับตัวกับอาหารเสริมและป้องกันไม่ให้มีอาการไม่สบายหรือผลข้างเคียง ควรเริ่มด้วยไซเลี่ยมฮัส 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำหรือน้ำผลไม้ โดยสามารถเพิ่มปริมาณเป็นสองช้อนโต๊ะต่อวันในช่วงหนึ่งสัปดาห์ ไซเลี่ยมฮัสสามารถดูดซับน้ำและขยายตัวในลำไส้ได้ถึง 25 เท่า ซึ่งช่วยให้ระบบทางเดินอาหารดีขึ้นและกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ดังนั้น ควรผสมไซเลี่ยมฮัสกับน้ำเพียงพอเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานของสารอาหาร หากทานน้ำไม่เพียงพออาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ โดยสามารถใช้ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (5 กรัม) ผสมกับน้ำ 1 แก้ว (250ml) เมื่อรับประทานไซเลี่ยมฮัสควรดื่มน้ำเพียงพอเพื่อให้สารอาหารได้ดูดซับน้ำเพียงพอในลำไส้และไม่ทำให้ระบบทางเดินอาหารแห้งและทำให้ปวดท้อง ไซเลี่ยมฮัสควรรับประทานก่อนหรือหลังอาหาร อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้สารอาหารได้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่ การรับประทานไซเลี่ยมฮัสเกินปริมาณที่แนะนำอาจทำให้มีผลข้างเคียง เช่น ท้องผูกหรือเป็นท้องเสีย ดังนั้น ควรรับประทานตามปริมาณที่แนะนำเท่านั้น การรับประทานไซเลี่ยมฮัสบ่อยครั้งอาจทำให้มีผลข้างเคียง เช่น อาการท้องผูก ท้องเสีย และอาการผิดปกติในการขับถ่าย […]

krit horbunluekij

March 9, 2023