สาหร่ายสไปรูลิน่า (Spirulina)
สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทอง เป็นอีกหนึ่งในซุปเปอร์ฟู๊ดที่ได้รับความนิยมมาก หลังจากที่องค์การนาซ่าได้นำสาหร่ายสไปรูลิน่ามาใช้เป็นอาหารสำหรับนักบินอวกาศ เนื่องจากสาหร่ายสไปรูไลน่านั้นเป็นแหล่งของสารอาหารชั้นดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยอัดแน่นไปด้วยประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารสูง มีความสามารถในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการติดเชื้อหรือโรคที่เกิดจากการอักเสพต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ได้ออกมายืนยันว่าสาหร่ายสไปรูไลน่านั้นมีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันโรคหลายชนิด มีความสามารถในการป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันไวรัส และโรคภูมิแพ้ เรามาดูประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของสาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองกันเลยดีกว่า
สาหร่ายสไปรูลิน่านั้น อยู่ในกลุ่มของสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (Blue-green algae) โดยถูกนำมาใช้ในการบริโภคตั้งแต่ยุตสมัยของชาวแอสเทค(Aztec) โดยในปี 1974 องค์การสหประชาชาติ หรือ United Nation (UN) ได้ยกให้สไปรูไลน่าเป็น “อาหารแห่งโลกอนาคต” โดยองค์กร NASA ได้ใช้สาหร่ายสไปรูไลน่าเป็นแหล่งของสารอาหารที่สำคัญสำหรับนักบินอวกาศในการดำรงชีพระหว่างการทำภารกิจนอกโลก และองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้สาหร่ายสไปรูไลน่านั้นอยู่ในหมวดหมู่ของอาหารที่ปลอดภัย (GRAS) จึงมั่นใจได้ว่าเป็นอาหารที่ปลอดภัยปราศจากผลข้างเคียงในภายหลัง
สาหร่ายสไปรูไลน่านั้นมีโปรตีนสูงถึง 70% ของน้ำหนัก อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ โดยเฉพาะวิตามิน B12 โปรวิตามินA (B-Carotenes)และธาตุเหล็ก อีกทั้งยังสารอาหารที่สำคัญ ได้แก่ กรดฟีนอลิก(Phenolic acids) วิตามินอี หรือ โทโคฟีรอล(Tocopherol) กรดไลโนเลอิก (Y-linolenic acid) ที่สำคัญสาหร่ายสไปรูไลน่านั้นไม่มีผนังเซลล์(cell wall) ซึ่งส่งผลทำให้ร่างกายสามารถย่อยสลายได้ง่าย จึงทำให้สารอาหารถึงดูดซึมเข้าไปอย่างเต็มที่
สำหรับสายvegan มังสวิรัติ หรือนักกีฬา ที่ต้องการเสริมโปรตีนในมื้ออาหารแทนเนื้อสัตว์ ผงสาหร่ายถือว่าตอบโจทย์ความต้องการเลยทีเดียว เพราะผงสาหร่ายสไปรูลิน่า อัดแน่นไปด้วยโปรตีนถึง 60% ของน้ำหนัก ซึ่งหากเทียบง่ายๆ คือ 1 ช้อนโต๊ะของสไปรูลิน่า เทียบเท่าได้กับปริมาณโปรตีนที่มีอยู่ในไข่ 1 ฟองเลยทีเดียว
สารอาหารในสาหร่ายสไปรูลิน่า
สาหร่ายสไปรูลิน่าเพียง 1ช้อนชา (7กรัม) นั้นประกอบไปด้วย (% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน)
โปรตีน 7 กรัม
วิตามิน B1 (Thiamine) 11%
วิตามิน B2 (Riboflavin) 15%
วิตามิน B3 (Niacin) 4%
คอปเปอร์ 21%
ธาตุเหล็ก 11 %
โอเมก้า 3 และ 6
อุดมไปด้วยแมกนีเซียม โพแทสเชียม แมงกานิสและสารอาหารอื่นๆที่จำเป็นต่อร่างกาย สารอาหารทั้งหมดนี้มีเพียง 20 แคลเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงที่สุดในโลก โดยเฉพาะสารอาหารประเภทโปรตีนที่อยู่ในสาหร่ายนั้นมีคุณภาพ มีกรดอมิโนครบทุกชนิด ซึ่งเทียบเท่าโปรตีนในไข่ไก่
ประโยชน์ของสาหร่ายสไปรูลิน่า
1. เสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกาย
สาหร่ายสไปรูไลน่านั้น เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกาย จากส่วนประกอบที่สำคัญ เช่น พอลิแซ็กคาไรด์ (polysaccharides) ที่ประกอบด้วย น้ำตาลแรมโนส(Rhamnose) และไกลโคเจน(Glycogen) รวมถึงกรดไขมันจำเป็น (GLA) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ร่างกายของมนุษย์สามารถดูดซึมได้ง่ายและช่วยในการปลดปล่อยพลังงานในร่างกาย รวมถึงยังช่วยเพิ่มแลคโตบาซิลลัสในลำไส้ และวิตามิน B6 ซึ่งช่วยเสริมสร้างพลังงานเช่นกัน
2. ช่วยดีท๊อกซ์สารพิษในร่างกาย
ประชากรมากกว่าล้านคนในประเทศ บังกลาเทศ อินเดีย ไต้หวันและชิลี นั้นประสบปัญหาพบโลหะหนัก หรือสารหนู(อาร์เซนิก) ปนเปื้อนในเครื่องดื่ม ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะสารหนูเป็นพิษต่อร่างกายแบบเฉียบพลันและถึงแก่เสียชีวิตได้ ซึ่งสาหร่ายสไปรูไลน่านั้นมีส่วนช่วยในการขจัดสารพิษเช่นโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยจากการทดลองที่ได้นำกลุ่มผู้ทดลองทาน สไปรูลิน่า 250mg และซิงค์ 2mg เป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 16 สัปดาห์ ผลปรากฏว่าสามารถลดสารหนูในร่างกายได้ถึง 47%
3. ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย เพิ่มไขมันดี
จากการวิจัยพบว่าการทานสาหร่ายสไปรูลิน่า ช่วยลดคอเลสเตอรอล(LDL) และไตรกลีเซอร์ไรด์(Triglycerides) ในทางกลับกันเป็นการเพิ่มไขมันดี(HDL)ให้กับร่างกายอีกด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ จากการทดลองนำพบว่าการทานสาหร่ายสไปรูลิน่าขนาด 2 กรัม ทุกวันสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลได้ถึง 10% และลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ได้ถึง 16%
4. ส่งผลดีต่อผู้เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2
โรคเบาหวานเป็นปัญหาสุขภาพที่มีสาเหตุจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นผิดปกติ ซึ่งเบาหวานประเภทที่ 2 เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุด โดยตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมาไม่เพียงพอที่จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติ หรือเรียกว่าภาวะดื้ออินซูลิน ทั้งนี้ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ระบุประโยชน์ของสาหร่ายสไปรูลินาที่อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและส่งผลดีต่อระดับไขมันในเลือดได้ ทดลองโดยให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานสาหร่ายสไปรูลินาวันละ 2 กรัม เป็นเวลา 2 เดือน พบว่าผลการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง รวมถึงระดับคอเลสเตอรอลรวม (TG) และไขมันชนิดที่ไม่ดี (LDL) ลดต่ำลง และระดับไขมันชนิดที่ดี (HDL) ยังเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
5. ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ เป็นหวัดง่าย
จากการทดลองโดยการให้คนเป็นโรคจมูกอักเสพจากภูมิแพ้ จำนวน 127 คน ทานสาหร่ายสไปรูลิน่า ปริมาณ 2 กรัมทุกวัน พบว่าสามารถช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี